ถาม-ตอบ
ถาม : รบกวนด้วยนะคะ่ อยากสอบถามเรื่องงานชุบทองแดงคะ งานที่ชุบแล้วถ้าไม่ลงแล็คเกอร์ ชิ้นงานจะขึ้นจุดดำเยอะแยะเลยคะ เรียกได้ว่าจะทั้งเส้นเลยคะ ไม่ทราบว่าเกิดจากน้ำยาไม่สะอาดรึป่าวคะ แล้วเราจะกรองน้ำยาได้วิธีไหนบ้างคะ จริงๆแล้วเราไม่มีเครื่องกรองที่บ่อชุบทองแดงเงาเลยคะ ซึ่งจริงควรจะมี
ตอบ : งานชุบทองแดง เมื่อขึ้นจากน้ำยามาแล้ว ต้องรีบทำให้แห้งโดยเร็วที่สุดครับ เนื่องจากทองแดงoxidizeง่ายมาก จึงทำปฏิกริยากับอากาศเลยเกิดจุดดำขึ้นที่ชิ้นงานครับ ดังนั้นถ้าชุบแล็กเกอร์แล้ว งานก็จะไม่ไม่หมองเร็วครับ เนื่องจากมีฟิลม์มาปิดผิวทองแดงแล้ว ผมอยากแนะนำให้ทำขึ้นตอยตามนี้นะครับ เมื่อขึ้นจากทองแดงแล้ว ให้ล้างน้ำสะอาดนานๆ ซัก2น้ำ แล้วจุ่มชิ้นงานในน้ำกรดsulphuric5% แล้วล้างน้ำอีก2น้ำ จบด้วยน้ำกลั่นแล้วทำให้แห้ง สีของทองแดงจะสวยกว่าครับ
ถาม : ตอนนี้ผมเจอะปัญหางานชุบโรเดียมลอกครับ อยากทราบสาเหตุและวิธีการแก้ปัญหาครับ
ตอบ : งานชุบลอก เกิดจากไม่ขัดชิ้นงาน ขัดชิ้นงานไม่ดีพอ หรือ ชุบโรเดียมบางเกินไป ทำให้ลอกได้
ถาม : สวัสดีค่ะ คือว่ามีงานเงินต้องการที่ลงดำ (oxidized) แล้วก็ชุบทอง ด้วย ไม่ทราบว่าสามารถทำได้มั้ยคะ ชิ้นงานคือต้องการพื้นลงดำ ส่วนที่เป็นลายนูนจะชุบทองค่ะ
ตอบ : โดยปกติแล้วงานที่ลงดำนั้นมักจะไม่นำกลับไปชุบอีกเพราะว่า อาจทำให้น้ำยาเสียได้ครับ แต่ถ้าต้องการจะชุบ ก็ลงไปชุบได้ตามปกติครับ เสี่ยงน้ำยาเสียกันหน่อย ดังนั้นร้านที่รับชุบจึงไม่รับงานที่ลงดำครับ ต้องทำการล้างลงดำออกก่อนจึงจะรับชุบในขั้นตอนต่อไปได้ มีอีกทางเลือกนึง ถ้าไม่ต้องการชุบทองหนา (ไมครอน) ก็ใช้ปากกาแต้มทองมาใช้ก็จบปัญหาแล้วครับ
ในปัจจุบัน โลหะเงินเป็นเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และจัดเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศไทย แต่ปัญหาหนึ่งที่ทำให้เครื่องประดับเงินมีคุณค่าลดลง คือ เรื่องความหมอง ถ้าวางโลหะเงินทิ้งไว้ในอากาศจะเกิดการหมอง ปริญญานิพนธ์นี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาถึงคุณภาพการต้านทานความหมองของโลหะเงินที่ผ่านวิธีการใช้โมเลกุลของ สารประกอบไฮโดรคาร์บอนสร้างฟิล์มที่ผิวหน้าในระยะเวลาที่แตกต่างกัน โดยเทียบกับความต้านทานการหมองของโลหะเงิน ด้วยวิธีการชุบน้ำยากันหมองโดยใช้ไฟฟ้า โดยใช้วิธีทดสอบเคมีไฟฟ้าเทคนิคอิมพีแดนซ์ในการทดสอบ หาคุณภาพชั้นฟิล์มของความต้านทานการหมอง
ชิ้นทดสอบโลหะเงินผสมธาตุเจือ จะถูกนำไปขัดเงาด้วยวิธีการ 2 แบบ คือ ขัดเงาโดยใช้ยาดิน-ยาแดง และขัดเงาโดยใช้ผงอลูมิน่า จากนั้นชิ้นงานทดสอบจะถูกนำไปวัดค่าความสะท้อนแสงและทำการ SAM แล้วนำทดสอบทางเคมีไฟฟ้าเทคนิคอิมพีแดนซ์ จากนั้นนำค่าความต้านทานของฟิล์มที่ได้มาวิเคราะห์เปรียบเทียบเพื่อเลือก วิธีการขัดในการเตรียมผิวชิ้นงาน ส่วนกระบวนการที่ใช้ในการสร้างฟิล์มเพื่อป้องกันการหมองมี 2 วิธีคือ การใช้โมเลกุลของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนสร้างฟิล์มที่ผิวหน้าและวิธีการชุบน้ำยากันหมองโดยใช้ไฟฟ้า จากนั้นวางชิ้นงานทิ้งไว้ในสภาพอากาศปกติเป็นระยะเวลาต่างๆกัน คือ 1วัน, 1สัปดาห์, 1เดือน และ3เดือน แล้วจึงนำชิ้นงานทดสอบมาทดสอบหาคุณภาพฟิล์มต้านทานความหมองโดยใช้การทดสอบเคมีไฟฟ้าเทคนิคอิมพีแดนซ์
ผลการทดลองพบว่า เมื่อทำการทดสอบวัดค่าความสะท้อนแสง ชิ้นทดสอบที่ผ่านการ SAM จะมีค่า ความสะท้อนแสงมากกว่าชิ้นทดสอบที่ผ่านการชุบน้ำยากันหมองโดยใช้ไฟฟ้า เมื่อเปรียบเทียบในระยะเวลาที่วาง ทิ้งไว้ในสภาพอากาศปกติเท่ากัน และเมื่อทดสอบทางเคมีไฟฟ้าเทคนิคอิมพีแดนซ์ ชิ้นทดสอบที่ผ่านการ SAM มีค่าความต้านทานการหมองมากกว่าชิ้นทดสอบที่ผ่านการชุบน้ำยากันหมองเมื่อเปรียบเทียบในระยะเวลาที่วางทิ้ง ไว้ในสภาพอากาศปกติเท่ากัน และธาตุเจือที่ผสมในโลหะเงินไม่มีผลต่อคุณภาพของชั้นฟิล์มต้านทานการหมอง การชุบเคลือบผิวเครื่องประดับด้วยไฟฟ้า เช่น การชุบทอง เงิน นาก ว่ากันว่าเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว ปัจจุบันยังคงพบเห็นร้านรับชุบเครื่องประดับ เครื่องหมาย และของที่ระลึกต่างๆ ตามแหล่งชุมชนอยู่บ้าง โดยมักเป็นร้านขนาดเล็กที่ทำคนเดียว ใช้พื้นที่หน้าร้านเพียงเล็กน้อยตั้งอุปกรณ์ รวมไปถึงร้านที่ทำเป็นกิจการขนาดกลางที่มีลูกจ้าง 4-5 คน ทำงานในห้องแถวเล็ก ๆ ไปจนถึงขนาดใหญ่ ที่สามารถชุบชิ้นงานได้เป็นร้อย ๆ ชิ้นในการชุบครั้งเดียว
การชุบโลหะไม่มีค่าประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้
การชุบทองแดงด่าง เป็นการชุบรองพื้น เพื่อให้การเคลือบผิวขั้นต่อไปยึดเกาะผิวได้ดีขึ้น เนื่องจากทองแดงด่างมีการยึดเกาะกับผิวชิ้นงานได้ดีมาก และโลหะมีค่าที่จะนำมาชุบทับสามารถยึดเกาะกับทองแดงด่างได้ดีกว่าเกาะผิวชิ้นงานโดยตรง รวมทั้งเพื่อเพิ่มความหนาของผิว ส่วนการชุบทองแดงกรดจะทำให้ผิวเรียบมันเงา ทำให้โลหะที่ชุบทับต่อไปเรียบเงา การชุบนิกเกิลจะทำให้ผิวชิ้นงานเป็นเงาสีขาวอมเหลือง เมื่อนำไปชุบทองหรือโลหะอื่นจะได้ชิ้นงานที่มีผิวชุบที่เงางาม ขั้นสุดท้ายเป็นการชุบโลหะมีค่า ได้แก่ โครเมียม ทองเหลือง นาก ทองเค เงิน ทอง ทองคำขาว และโลหะอื่น ๆ
ในการชุบจริงอาจมีการลดขั้นตอนลงตามความเหมาะสมของชิ้นงานด้วย เช่น หากชิ้นงานเป็นเครื่องประดับที่เคยเคลือบมาแล้ว ก็เพียงทำความสะอาดแล้วชุบขั้นสุดท้ายได้เลย ไม่ต้องชุบรองพื้นก่อน เป็นต้น
การชุบโลหะมีค่าเป็นกิจกรรมที่มีสารเคมีเกี่ยวข้องด้วยจำนวนมาก ตัวอย่างสารเคมีที่ใช้ในการทำน้ำยาชุบและที่ใช้ในขั้นตอนต่าง ๆ มีดังนี้
สารละลายสำหรับล้างทำความสะอาดผิวชิ้นงาน: การทำความสะอาดทั่วไปใช้สารละลายโซเดียมไซยาไนด์เข้มข้น 20 – 40 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตร ถ้าชิ้นงานสกปรกมากอาจต้องทำความสะอาดโดยใช้กรดหรือด่างกัดก่อน
น้ำยาชุบทองแดงด่าง : สูตรที่ใช้ทั่วไปประกอบด้วยสารโซเดียมไซยาไนด์ โปตัสเซียมโซเดียมทาร์เทรต โซเดียมคาร์บอเนต และคอปเปอร์ไซยาไนด์ ผสมรวมกันในน้ำกลั่น
น้ำยาชุบทองแดงกรด : เป็นส่วนผสมของสารคอปเปอร์ซัลเฟต กรดซัลฟุริกหรือกรดกำมะถันเข้มข้น 96% กรดไฮโดรคลอริกหรือกรดเกลือ และน้ำยาเงา (ทองแดง) น้ำกลั่น
น้ำยาชุบนิกเกิล : มีองค์ประกอบหลักคือ นิกเกิลซัลเฟต นิกเกิลคลอไรด์ กรดบอริค น้ำยาพื้นนิกเกิล น้ำยาเงานิกเกิล น้ำกลั่น
Open your Eye
rhodium last longer zero .pdf
วิธีชุบเครื่องประดับที่จะทำให้การชุบน้ำยาโรเดียมซีโรอยู่ได้นาน ยิ่งขึ้น.doc